ในปัจจุบันนี้การทำศัลยกรรมเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการ ศัลยกรรมทำตาสองชั้น จมูก ปาก หรือส่วนอื่นๆของร่างกายก็มีอัตราเพิ่มขึ้นในทุกๆปี เพราะคนส่วนใหญ่นั้นมีความต้องการที่จะพัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้นอยู่เสมอ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ และ บุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ปัจจัยสำคัญอย่างนึงที่ไม่ควรละเลยคือ การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมอย่างการรับประทานอาหาร เพราะไม่ใช่เราจะสามารถทานอาหารได้ทุกอย่าง วันนี้จึงมาขอเสริมเรื่องอาหารอะไรที่ควรทาน หรือ ควรที่จะละเว้นในช่วงหลังทำศัลยกรรม เพื่อที่จะทำให้แผลผ่าตัดจากการทำศัลยกรรมมานั้นได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกวิธี ทำให้แผลเข้าที่ และ หายอย่างรวดเร็วมากขึ้น
อาหารที่ควรทานหลังทำศัลยกรรม
เมื่อทำศัลยกรรมแล้วเราควรที่จะใส่ใจในทุกเรื่อง ทุกรายละเอียดตามที่แพทย์สั่ง และ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือ อาหารที่จะช่วยเร่งฟื้นฟูบาดแผลผ่าตัดให้หายเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะการเลือกทานสารอาหารที่มีประโยชน์หลังทำศัลยกรรมก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ และ ควรที่จะใส่ใจเพื่อความสวยของแผลและความปลอดภัยของร่างกาย ยิ่งในช่วงแรกของการทำศัลยกรรมอาจจะเกิดอาการบวม และ อาการอักเสบของแผลผ่าตัด ช่วงแรกควรหาอาหารอ่อนๆที่ง่ายต่อการรับประทาน ไม่แข็งจนเกินไปเพราะอาจทำให้แผลของเรานั้นได้รับความกระทบกระเทือน เราจึงต้องหาตัวช่วยเป็นอาหารที่ทานง่ายพร้อมมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการอักเสบ เร่งการยุบบวมของแผลที่เกิดขึ้นใหม่ๆเพื่อให้แผลเข้าที่ได้ไวที่สุด
1. น้ำ
น้ำเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดของร่างกายมนุษย์ที่จะช่วยให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายเกิดความสมดุล เนื่องจากร่างกายของเรานั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70% หากเราดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมพอดีกับร่างกาย จะส่งผลให้เซลล์ผิวหนังได้รับความชุ่มชื้น แผลผ่าตัดก็จะสมานตัวได้ดียิ่งขึ้น ในช่วงหลังทำศัลยกรรมพยายามอย่าให้ร่างกายของเราขาดน้ำ เนื่องจากอาจจะส่งผลให้เซลล์ผิวหนังตาย เพิ่มความเจ็บปวดของบาดแผลได้ อีกทั้งยังส่งผลให้น้ำลำเลียงออกซิเจน และ สารอาหารไปยังบาดแผลได้ไม่เต็มที่ ทำให้แผลหลังทำศัลยกรรมหายช้าลงได้ ฉะนั้นเราควรบริโภคน้ำอย่างน้อยวันละ 7 ถึง 8 แก้ว ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อสุขภาพที่ดีและร่างกายที่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังทำศัลยกรรมเสร็จ
2. โปรตีน
เป็นแหล่งสารอาหารที่จะคอยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อได้ดี ส่งผลให้แผลหลังทำศัลยกรรมนั้นสมานตัวได้เร็ว เซลล์เนื้อเยื่อให้ประสานกันได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น แผลหายเร็วขึ้น แผลออกมาสวย และยังสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ในปัจจุบันจึงเป็นแนวทางของแพทย์ยุคใหม่ ที่มักจะเสริมโปรตีนในอาหารให้สูงขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องผ่าตัดด้วย เนื้อสัตว์ ไข่ นม นั่นเอง
3. ไขมันดี
เป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์อย่างมาก ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของกระบวนการกระตุ้นซ่อมแซมเยื่อหุ้มเซลล์จึงทำให้สมานแผลหลังทำศัลยกรรมได้ดี รวมถึงลดอัตราเสี่ยงในการอักเสบ และ ติดเชื้อกับแผลสดได้ดีอีกด้วย ไขมันดีพบได้ในน้ำมันรำข้าว น้ำมันงา อัลมอนด์ ถั่วลิสง ทั้งช่วยสมานแผลและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
4. ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กจะมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน และ คอลลาเจน ทำให้มีส่วนช่วยในเรื่องของการสมานตัวของแผลหลังทำศัลยกรรมให้แผลหายเร็วมากยิ่งขึ้น และ ยังช่วยการป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลได้ดีอีกด้วย ส่วนมากแล้วผักใบเขียวจะมีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักบุ้ง ผักโขม บล็อคโคลี่ โดยควรบริโภคแร่ธาตุดังกล่าวอย่างน้อย 15 มิลลิกรัม
5. อาหารที่มีวิตามินซี
หลังทำศัลยกรรมเสร็จนั้น ร่างกายจะสร้างสารอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นการที่เรารับประทานอาหารที่มีวิตามินซีอย่างผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี กีวี่ จะยิ่งช่วยในเรื่องของการสร้างเนื้อเยื่อในร่างกายให้ประสานตัวได้รวดเร็ว มีส่วนช่วยเร่งการสมานตัวของแผล และ ทำให้เส้นเลือดฝอยให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย
ผลไม้ ลดบวมหลังศัลยกรรมมีอะไรบ้าง?
ผลไม้มีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการบวมหลังทำศัลยกรรม โดยผลไม้แต่ละชนิดต่างมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกมากมายแตกต่างกันไป
มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยพาเพอิน (Papain) และบรอมีเลน (Bromelain) ซึ่งมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการบวมและอักเสบ อีกทั้งยังมีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนที่มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจกอีกด้วย
สับปะรด
สับปะรดมีวิตามินซี เอนไซม์พาเพอินและบรอมิเลนเช่นเดียวกับมะละกอ จึงมีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการบวมอักเสบหลังการทำศัลยกรรม ช่วยฟื้นฟูให้แผลสมานเร็วขึ้น และมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาในการมองเห็น
มะพร้าว
นอกจากมะพร้าวจะมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซีที่ช่วยลดอาการอักเสบ โพแทสเซียมที่ช่วยขับน้ำ ขับของเสียออกจากร่างกายของเรา ยังมีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการบวมช้ำ และรอยเขียวที่เกิดขึ้นหลังการทำศัลยกรรมได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเราอีกด้วย
แตงโม
แตงโมมีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำที่จะช่วยขับน้ำและโซเดียม ช่วยลดอาการบวม แดง และมีไลโคปีนที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบของแผลหลังการผ่าตัด มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสุขภาพตา อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น ป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ
กีวี
อีกหนึ่งผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบและฟื้นฟูแผลหลังทำศัลยกรรม นั่นก็คือ กีวี เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มากไปกว่านั้น กีวีมีสารอนุมูลอิสระอย่างสารลูทีนและซีแซนทีนที่ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเป็นโรคจอประสาทเสื่อม รวมถึงโรคทางตาอื่น ๆ อีกด้วย
สตรอว์เบอร์รี
ผลไม้สีแดงอย่างสตรอว์เบอร์รี อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคต้อกระจก
อะโวคาโด
อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่เป็นไขมันดี มีส่วนช่วยลดอาการบวม อักเสบ มีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสายตา และลดโอกาสการเป็นโรคทางตา รวมถึงวิตามินอีและโพแทสเซียมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวหนังของเรา
มะม่วงสุก
มะม่วงสุกมีเอนไซม์อะไมเลส (amylase) ที่ช่วยย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลขนาดเล็ก ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตาในด้านการมองเห็นตอนกลางคืน
ลูกแพร์
การทานลูกแพร์หลังศัลยกรรม จะช่วยลดอาการบวม ฟื้นฟูบาดแผล และยังช่วยป้องกันการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการขับถ่าย เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง
แอปเปิ้ล
สารฟลาโวนอยด์ (flavonoid) ที่มีอยู่ในแอปเปิ้ล จะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งจะลดอาการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูแผลหลังผ่าตัด มากไปกว่านั้น แอปเปิ้ลเหลืองจะช่วยบำรุงสายตา ให้ดวงตาสดใส แอปเปิ้ลแดงช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
ส้มโอ
ส้มโอเป็นผลไม้ตระกูลส้มที่มีสรรพคุณช่วยในการสมานแผล มีวิตามินซี และไลโคปีนหรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอาการอักเสบของแผลหลังการผ่าตัด มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา อีกทั้งยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
อาหารที่ควรงดหลังทำศัลยกรรม
หลังศัลยกรรมไปแล้ว หากเราดูแลแผลได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาภายหลัง ไม่ว่าจะเรื่องอาหารการกิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คนทำศัลยกรรมควรรู้ว่าอะไรที่ควรงดทานช่วงหลังทำศัลยกรรม เพราะใช่ว่าอาหารทุกอย่างจะสามารถทานได้หลังทำศัลยกรรมเสร็จ ยิ่งระยะแรกในช่วงทำศัลยกรรมเสร็จใหม่ๆ ควรจะระมัดระวังเรื่องของอาหารเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดีก็อาจส่งผลต่อแผลผ่าตัดทำให้แผลหายช้าลง หรือ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
1. งดวิตามิน อาหารเสริม
เนื่องจากตัวยาอาหารเสริม หรือ วิตามินบางตัวมีส่วนประกอบของวิตามินอี น้ำมันปลา ยาแอสไพริน ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆที่อาจส่งผลกระทบต่อแผลผ่าตัด เช่น อาจทำให้เลือดแข็งตัว เพิ่มความบวมช้ำของแผล ทำให้ยิ่งยากต่อการรักษาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นควรจะงดช่วงหลังทำศัลยกรรมไปก่อน แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ หรือ มีโรคประจำตัวที่จะต้องรีบบริโภคยานั้นๆ ให้ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เพื่อความปลอดภัยของร่างกายเราเอง
2. อาหารรสชาติจัด
หลายๆคนชอบรับประทานอาหารรสจัด หรือ อาหารรสเผ็ด ในช่วงหลังทำศัลยกรรมนั้น ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน โดยเฉพาะการทำศัลยกรรมจมูก เนื่องจากรสชาติความเผ็ด ร้อน ของอาหารจะไปกระตุ้นอาการเกิดน้ำมูกไหล ซึ่งส่งผลให้แผลไม่แห้ง และหายช้าได้ รวมถึงในน้ำมูกของเรานั้นอาจมีเชื้อโรค หรือ สิ่งแปลกปลอมต่างๆสะสมอยู่ด้วยทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อของแผลได้
3. อาหารหมักดอง อาหารสุกๆ ดิบๆ
ควรงดการรับประทานอาหารหมักดอง หรือ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบไปก่อนในช่วงหลังทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็น ปลาดิบ ลาบ ก้อย หรือ เนื้อที่ไม่สุก อาหารหมักดองต่างๆ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อของแผล เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจจะไม่สะอาดและนำเชื้อโรคเข้าสู่บาดแผล ทำให้แผลหายช้าอีกด้วย ยิ่งอาหารหมักดองโดยปกติจะมีรสชาติเค็มอาจทำให้เกิดอาการบวมของแผลได้เช่นกัน
4. งดการดื่มสุรา หรือ แอลกอฮอล์ ทุกชนิด
เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรงดในระยะเวลาช่วงหลังทำศัลยกรรมเป็นอย่างมาก อย่างที่ใครหลายคนทราบว่าแอลกอฮอล์ไม่ดีต่อร่างกาย เนื่องจากในตัวแอลกอฮอล์จะมีสารที่ทำให้ร่างกายมีการสูบฉีดของเลือดอย่างหนัก และอาจทำให้ความดันโลหิตสูง ไม่เพียงเท่านั้นยังทำลายเซลล์ที่จะช่วยในเรื่องของการรักษาแผล ทำให้แผลหายช้าลง และ เสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
5. อาหารทะเลบางชนิด
เนื่องจากอาหารทะเลอาจทำให้บาดแผลที่เกิดขึ้นหลังทำศัลยกรรมเกิดอาการแพ้ที่อาจก่อให้เกิดการคัน บวม อักเสบ ฉะนั้นในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์แรกควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารทะเลจำพวก กุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอาการแพ้บริเวณบาดแผลได้
เมนูลดบวมหลังศัลยกรรม
1. ซุปฟักทอง
มีประโยชน์ในการช่วยลดการติดเชื้อจากแผลผ่าตัด และ ช่วยรักษาอาการอักเสบเนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน A ช่วยเร่งฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ ฟักทองสามารถลดอาการบวมและ อาการอักเสบหลังทำศัลยกรรมได้ พร้อมยังช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอม และ เชื้อโรคโดยขับออกทางของเสียของร่างกาย
2. ถั่วดำ
โดยอาหารประเภทถั่วอุดมไปด้วย โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ และ วิตามิน มีประโยชน์พร้อมสรรพคุณที่หลากหลายในการช่วยบำรุงเลือด ลดอาการบวมอาการอักเสบหลังทำศัลยกรรม ป้องกันการติดเชื้อได้ดี และยังช่วยในเรื่องของการขับสารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ออกจากร่างกาย
3. น้ำใบบัวบก
เป็นสิ่งที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุดหลังทำศัลยกรรม เนื่องจากส่วนประกอบของน้ำใบบัวบกนั้นมีกรด Madecassic และ Aslatic ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการยุบ บวม บรรเทาอาการอักเสบ และ ลดอาการช้ำในของแผลผ่าตัดได้อย่างดี ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แถมยังสะดวกในการรับประทานเนื่องจากเป็นน้ำ เหมาะกับการทานหลังศัลยกรรมในช่วงแรก
4. น้ำมะพร้าว
มีส่วนช่วยให้แผลผ่าตัดแห้งเร็วขึ้น พร้อมทั้งสรรพคุณต้านอาการบวม และ อาการอักเสบหลังทำศัลยกรรม เพราะส่วนประกอบของน้ำมะพร้าวนั้นมีสารที่ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้อย่างดี และยังรสชาติดี ดื่มง่าย ทำให้น้ำมะพร้าวเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใครหลายคนเลือกทานในช่วงหลังทำศัลยกรรม
วิธีลดบวม และดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรม
1. ประคบเย็น
ในช่วงหลังทำศัลยกรรมในระยะ 2-3 วันแรก ให้เน้นการประคบเย็นอาจใช้เป็นแผ่นประคบเย็น หรือ ผ้าขนหนูที่นำไปแช่เย็นมาใช้เพื่อลดอาการอักเสบ ปวด บวม แดง การหมั่นประคบเย็นบ่อยๆในช่วงแรกจะทำให้แผลยุบเร็วขึ้น หายเร็วขึ้นได้
2. ประคบอุ่น
หลังทำศัลยกรรมมา 1 สัปดาห์ แนะนำให้เริ่มเปลี่ยนเป็นการประคบอุ่นเพื่อเป็นการสลายลิ่มเลือดให้เลือดในบริเวณนั้นไหลเวียนได้ดีขึ้น อาจเป็นการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นในการช่วยประคบแต่ต้องกะอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดการลวกที่บริเวณบาดแผลได้
3. นอนยกหัวสูง
หลังทำศัลยกรรมในช่วงแรก สิ่งหนึ่งที่ควรระมัดระวังคือเรื่องของการนอน ควรนอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับเพื่อไม่ให้เลือดคั่งในบริเวณบาดแผล อีกทั้งหมอนที่ช่วยในการประคองจะป้องกันการเกิดอันตรายในบริเวณที่ทำศัลยกรรมมาได้ดีอีกด้วย
4. ล้างแผลให้สะอาด
หลังทำศัลยกรรมสิ่งที่ควรคำนึงอย่างแรกคือความสะอาดในบริเวณบาดแผลศัลยกรรม ในช่วงแรกพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลบริเวณที่ศัลยกรรมโดนน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และ อาจส่งผลทำให้แผลอาจหายช้ากว่าเดิม ควรดูแลความสะอาดโดยการใช้คอตตอนบัตสะอาดซับของเหลวต่างๆที่ซึมออกมาจากแผลอย่างเบามือมากที่สุด
5. ทานยาตามแพทย์สั่ง
เป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลตัวเองที่สำคัญ คือการทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการอักเสบหลังทำศัลยกรรม ป้องกันการติดเชื้อในเบื้องต้น และ ช่วยให้แผลหายไวขึ้น อีกทั้งแนะนำให้ปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความปลอดภัยต่อตัวเรา
หากทำตามข้อแนะนำทั้งเรื่องอาหารการกิน และการปฏิบัติตัวในช่วงหลังทำศัลยกรรมได้ มั่นใจได้เลยว่าอาการของแผลผ่าตัดนั้นต้องดีขึ้น และ หายไวขึ้นอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากการรับประทานอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาตัวเองหลังทำศัลยกรรม ฉะนั้นเราต้องหมั่นดูแลตัวเองให้ครบถ้วนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน ที่สำคัญที่สุดคือการทำตามข้อปฏิบัติที่แพทย์บอกอย่างเคร่งครัด เท่านี้ความเสี่ยงที่แผลผ่าตัดจะเกิดการติดเชื้อ หรือ แผลหายช้ากว่าเดิมก็มีความเสี่ยงลดลงแล้ว