น้ำตาเทียม ไขข้อสงสัยทุกประเด็น รู้ก่อนใช้ ปลอดภัยชัวร์

           น้ำตาเทียมหรือไอเท็มที่หลายคนอาจมีติดกระเป๋ากันอยู่ตลอด ด้วยสภาพอากาศ ฝุ่นควัน มลภาวะ และวิถีชีวิตการทำงานที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นปัญหากวนใจที่สามารถบรรเทาได้ด้วยการหยอดน้ำตาเทียม ใครที่อยากใช้น้ำตาเทียม แต่ไม่รู้ว่า ต้องใช้น้ำตาเทียมชนิดไหน อาจเกิดคำถามมากมาย เช่น  น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? ใช้น้ำตาเทียมบ่อย อันตรายไหม ? น้ำตาเทียมมีกี่ประเภท ?  มาร่วมไขข้อสงสัยทุกประเด็นกันในบทความนี้

Table of Contents

    น้ำตาเทียมคืออะไร ?

               น้ำตาเทียม คือ สารที่ถูกผลิตขึ้นเลียนแบบน้ำตาธรรมชาติของเรา โดยประกอบไปด้วยสารประกอบหลายชนิด เช่น สารให้ความชุ่มชื้น สารอิเล็กโทรไลต์ สารควบคุมความเป็นกรดด่างภายในดวงตา และสารอื่น ๆ ตามประเภทของน้ำตาเทียม แล้วน้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? น้ำตาเทียมมีหน้าที่ช่วยหล่อลื่นให้ความชุ่มชื้นกับดวงตา ป้องกัน และบรรเทาอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา แสบตา รวมถึงลดอาการตาล้าได้อีกด้วย

    น้ำตาเทียมมีกี่ประเภท ?

               ประเภทของน้ำตาเทียมสามารถแบ่งออกได้  3 ประเภทหลัก ๆ  โดยแต่ละประเภท มีความแตกต่างกันไปตามลักษณะ และคุณสมบัติความเหมาะสมในการใช้

    น้ำตาเทียมมีกี่ประเภท

    น้ำตาเทียมแบบน้ำ (water-based tears)

               น้ำตาเทียมแบบน้ำ เป็นน้ำตาเทียมที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อหยอดแล้วจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง เหมาะกับคนที่มีอาการตาแห้งไม่มาก สามารถเลือกใช้ตามความต้องการ และปัจจัยอื่น ๆ ของตนเอง มีให้เลือกทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

    น้ำตาเทียมแบบเจล (gel-based tears)

               น้ำตาเทียมแบบเจล เป็นลักษณะน้ำตาเทียมที่ไม่เหลวเป็นน้ำ เนื้อเจลมีความหนืดให้ความชุ่มชื้นนานกว่าแบบน้ำ เหมาะกับคนที่อาการตาแห้งรุนแรง เนื่องจากเนื้อเจลจะช่วยเคลือบผิวดวงตาได้ยาวนานขึ้น สามารถคงความชุ่มชื้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้บ่อย และเมื่อหยอดเนื้อเจลลงบนดวงตา การมองเห็นอาจพร่ามัวชั่วขณะหนึ่ง จึงควรใช้น้ำตาเทียมแบบเจลในช่วงก่อนเข้านอน

    น้ำตาเทียมแบบน้ำมัน (oil-based tears)

               น้ำตาเทียมชนิดที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม ช่วยในเรื่องการระเหยของน้ำตา ไม่ให้ระเหยเร็วเกินไป เพื่อที่จะสามารถคงความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้อย่างยาวนาน แต่น้ำตาเทียมชนิดนี้ไม่เหมาะกับใครที่ใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากส่วนผสมจากน้ำมันอาจเกาะติดพื้นผิวคอนแทคเลนส์ ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการทำความสะอาด

    นอกจากนี้ น้ำตาเทียมยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสีย และน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสีย แล้วทั้งสองชนิดนี้ ใช้หยอดตาบ่อยเป็นไรไหม ? แตกต่างกันอย่างไร ? ควรเลือกใช้ชนิดไหน ?

    น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสีย (preserved tears)

               น้ำตาเทียมประเภทที่มีสารกันเสีย คือ น้ำตาเทียมที่สามารถใช้ได้หลายครั้งหรือมีอายุการใช้งานนาน เช่น น้ำตาเทียมชนิดรายเดือน เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่อาจเติบโตภายในขวด เหมาะกับผู้ที่มีอาการตาแห้งไม่มาก ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหยอดน้ำตาเทียมเป็นประจำ

    น้ำตาเทียมปราศจากสารกันเสีย (unpreserved tears)

               ส่วนน้ำตาเทียมประเภทที่ปราศจากสารกันเสีย มักเป็นน้ำตาเทียมชนิดรายวันหรือชนิดที่ต้องใช้ให้หมดภายใน 12 -24 ชั่วโมง เหมาะกับใครที่มีอาการตาแห้ง โดยน้ำตาเทียมชนิดนี้ สามารถใช้ได้บ่อยตามที่ต้องการ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียใดใดต่อดวงตา

    น้ำตาเทียมช่วยอะไร ?

               ส่วนคำถามที่ว่า น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? เมื่อหยอดน้ำตาเทียมลงบนดวงตาของเรา จะช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง ลดอาการระคายเคืองตา แสบตา โดยสาเหตุของอาการตาแห้ง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

    • การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้ง ลมแรง 
    • ต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ 
    • ใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นระยะเวลานาน 
    • ตาแห้งที่เกิดขึ้นในช่วงแรกหลังการผ่าตัดทำตาสองชั้น 
    • เป็นโรคภูมิแพ้ตา ต้อกระจก โรคไทรอยด์เป็นพิษ

               รวมถึงผู้สูงอายุที่ร่างกายผลิตน้ำตาน้อยลง และการใส่คอนแทคเลนส์ที่ทำให้ออกซิเจนหล่อเลี้ยงดวงตาลดลง จนทำให้เกิดอาการตาแห้ง แสบตา การใช้น้ำตาเทียม จึงเป็นการช่วยเติมสารหล่อลื่น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้ หากปล่อยอาการตาแห้งไว้ สามารถก่อให้เกิดแผลที่กระจกตา ซึ่งเป็นอันตรายต่อการมองเห็น

    ใช้น้ำตาเทียมบ่อยอันตรายไหม ?

               นอกจากคำถาม น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? แล้ว ใครที่พกน้ำเทียมติดตัวอยู่ตลอดคงเกิดความสงสัยว่า หยอดน้ําตาเทียมบ่อย อันตรายไหม ? ในกรณีที่ใช้น้ำตาเทียมชนิดที่ไม่มีสารกันเสียหรือน้ำตาเทียมรายวัน สามารถใช้ได้บ่อยตามความต้องการ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตา แต่ในกรณีใช้น้ำตาเทียมรายเดือนแบบขวดสามารถใช้ได้ไม่เกิน 4 ถึง 5 ครั้งต่อวัน เนื่องจากน้ำตาเทียมรายเดือนหรือแบบขวด มีส่วนประกอบของสารกันเสียอ่อน ๆ และถึงแม้ว่า เปิดใช้ครบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังใช้ไม่หมดขวด ต้องทิ้งเปลี่ยนขวดใหม่ทันที 

               อย่างไรก็ตามการหยอดน้ำตาเทียมเป็นเพียงการบรรเทาอาการในเบื้องต้น หากมีอาการตาแห้งรุนแรงหรือมีโรคตาอื่น ๆ ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม 

    ประโยชน์ของน้ำตาเทียม

               น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? ประโยชน์ของน้ำตาเทียมมีอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น

    • เป็นสารหล่อเลี้ยง และคงความชุ่มชื้นให้กับดวงตา ช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากอาการตาแห้ง บรรเทาความรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา 
    • ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เนื่องจากตาแห้งอาจทำให้เกิดการมองเห็นไม่ชัด
    • บรรเทาอาการตาล้าจากการใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ 
    • ปกป้องผิวกระจกตา เนื่องจากเมื่อเกิดอาการตาแห้ง กระจกตามีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลขีดข่วน หากปล่อยทิ้งไว้ อาจเป็นอันตรายต่อการมองเห็น 
    • ตัวช่วยสำหรับใครที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ และเกิดอาการตาแห้ง

    วิธีใช้น้ำตาเทียมมีดังนี้

               เมื่อเรารู้ถึงประโยชน์ของน้ำตาเทียมแล้วว่า น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? แล้ว มาดูวิธีการใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้องกันเลย

    1. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง เมื่อต้องสัมผัสผิวหนังรอบดวงตาและใบหน้า
    2. เงยหน้า และมองขึ้นบน ใช้นิ้วมือดึงเปลือกตาล่างลงเบา ๆ เพียงเล็กน้อย
    3. หยดน้ำตาเทียมตามจำนวนหยดที่กำหนดไว้ในวิธีการใช้ข้างกล่อง
    4. หลับตาหรือกะพริบตาเบา ๆ เพื่อกระจายน้ำตาเทียมทั่วดวงตา

               รวมถึงหลีกเลี่ยงการถูขยี้ตาหลังหยอดน้ำตาเทียม และหลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาสัมผัสกับหัวหยดหรือช่องทางออกของน้ำตาเทียม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนหรือสิ่งสกปรก

    หยอดน้ำตาเทียมแล้วแสบตา

               เมื่อหยอดน้ำตาเทียมแล้วเกิดอาการแสบตา อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ประเภทน้ำตาเทียมที่ไม่เหมาะกับอาการตาแห้งของตนเอง การแพ้สารกันเสียที่เป็นส่วนผสมในน้ำตาเทียม หรือการมีสารปนเปื้อนในน้ำตาเทียม ทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่อาจนำไปสู่อาการติดเชื้อในดวงตา ส่วนคำถามที่ว่า หยอดตาบ่อยเป็นไรไหม ? การใช้น้ำตาเทียมในปริมาณที่มากเกินพอดีก็สามารถเป็นหนึ่งในโอกาสที่ทำให้แสบตาได้ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่หยอดน้ำตาเทียมแล้วแสบตา ควรหยุดใช้ในทันที และลองใช้น้ำตาเทียมชนิดหรือยี่ห้ออื่น หากยังมีอาการผิดปกติ ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาได้อย่างถูกวิธี

    ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม

               มากไปกว่าการรู้ว่า น้ำตาเทียม ช่วยอะไร ? หยอดน้ำตาเทียมบ่อย อันตรายไหม ? จะต้องรู้ข้อควรระวัง และข้อปฏิบัติในการใช้น้ำตาเทียม เพื่อสุขอนามัยที่ดีของดวงตาอีกด้วย โดยข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียมมีดังนี้

    ข้อควรระวังน้ำตาเทียม
    • ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
    • ไม่ควรใช้น้ำตาเทียมที่หมดอายุ และในกรณีที่ครบตามกำหนดวันหมดอายุแล้ว แต่ยังใช้ไม่หมด จะต้องทิ้ง และเปลี่ยนใหม่เท่านั้น 
    • ห้ามใช้น้ำตาเทียมที่เกิดการเปลี่ยนสีหรือมีความขุ่น 
    • หากใช้น้ำตาเทียมแล้ว แต่ยังมีอาการตาแดง แห้ง ระคายเคือง ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษา
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสที่ปลายหยดน้ำตาเทียม ป้องกันการปนเปื้อนที่อาจทำให้เกิดอาการตาอักเสบ และติดเชื้อ

    การดูแลรักษาน้ำตาเทียม

               การดูแลรักษาน้ำตาเทียม ควรเก็บไว้ให้พ้นแสงแดด ความร้อนเข้าไม่ถึงหรือเก็บอยู่ในอุณหภูมิ 15 ถึง 25 องศาเซลเซียส ไม่ควรเก็บในพื้นที่ที่มีความชื้น และปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้เสร็จ หากเป็นน้ำตาเทียมรายวัน เมื่อเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 วัน ห้ามใช้เกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด

    สรุป

               น้ำตาเทียม คือ สารเลียนแบบน้ำตาธรรมชาติที่ช่วยหล่อลื่น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาของเรา โดยน้ำตาเทียมมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำ เจล น้ำมัน ผสม มีสารกันเสีย และปราศจากสารกันเสีย ควรเลือกใช้ตามลักษณะปัญหา อาการตาแห้งหรือปัจจัยอื่น ๆ ของตนเอง ทั้งนี้หากใช้น้ำตาเทียมแล้ว แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการตาแห้งได้หรือเกิดความผิดปกติอื่น ๆ ควรพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม