ตาง่วงนอน ตาไม่โฟกัส ไม่สดใส เห็นตาขาวเยอะเกิน ขอบตาล่างไม่ชิดกับตาดำ รู้มั้ยว่าอันนี้อาจเป็นลักษณะของคนที่มีปัญหาตาลอย ที่บางครั้งอาจมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำ และส่งผลต่อบุคลิกภาพ มาทำความรู้จักและหาวิธีการบอกลาปัญหาตาลอยได้ในบทความนี้
ลักษณะของคนที่มี ปัญหาตาลอย?
ปกติแล้ว ลักษณะของดวงตาโดยทั่วไปขอบตาบนจะปิดตาดำลงมา1-2mm ส่วนขอบตาล่างจะอยู่พอดีกับขอบตาดำ หากขอบตาล่างอยู่ต่ำกว่าขอบตาดำ จะทำให้เห็นตาขาวบริเวณใต้ตาดำ จะทำให้มีลักษณะตาลอยไม่ได้สัดส่วน
- คนตาลอยจะมีบริเวณขอบตาดำและบริเวณขอบตาล่างห่างกัน ขอบตาล่างไม่ได้ปิดบริเวณขอบตาดำทำให้ตาดูไม่มีสัดส่วน
- มีพื้นที่บริเวณตาขาวเยอะกว่าบริเวณตาดำทำให้ดูตาลอย
- ขอบตาล่างลอยทำให้ดูเหม่อลอย และดูไม่โฟกัส ดูง่วงนอนไม่สดใส
สาเหตุปัญหาตาลอย เกิดจากอะไร?
สาเหตุของปัญหาตาลอยเกิดได้จากหลายสาเหตุ และ ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์มักมีความคิดว่า คอนแทคเลนส์อาจเป็น 1 ในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาตาลอย แต่จริงๆแล้วคอนแทคเลนส์ไม่ใช่สาเหตุของปัญหาตาลอย แต่อาจเพราะผู้ที่ใส่แบบบิ๊กอาย อาจจะเคยชินในขนาดของตาดำเวลาใส่ เมื่อถอดแล้วจึงไม่ชินตากับขนาดตาดำเดิมของตนเอง ซึ่งในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาตาลอย
กรรมพันธุ์
ปัญหาตาลอยที่เป็นตั้งแต่เกิด ขอบตาล่างอยู่ต่ำกว่าขอบล่างของตาดำ ทำให้ดูตาลอยตั้งแต่เด็ก ซึ่งเกิดจากกรรรมพันธุ์
อายุมากขึ้น เกิดการหย่อนคล้อยของหนังตาล่าง
เมื่ออายุมากขึ้น บริเวณหนังตาล่างเกิดการหย่อนคล้อย ทำให้บริเวณขอบตาล่างหย่อนลงมา ส่งผลให้เห็นบริเวณตาขาวมากขึ้น และขอบตาไม่ติดกับตาดำเหมือนเดิม
เคยผ่าตัดถุงใต้ตามาก่อนแล้วมีการตัดหนังตาออกมากเกินไป
การผ่าตัดถุงใต้ตาและมีการตัดหนังตาออกมาเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาตาลอยได้เหมือน ทำให้ดึงรั้งเปลือกตาล่างลงมาจนกลายเป็นมีลักษณะของตาลอย
มีแผลเป็นขนาดใหญ่บริเวณใต้ตา
การมีแผลเป็นแผลคีลอยด์บริเวณใต้ตา อาจส่งผลทำให้เกิดการดึงรั้งเปลือกตาล่างลงมา
ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้หนังตาบนลงมาปิดตา ร่างกายต้องมีการเบิ่งตา ทำให้เอ็นตาล่างจะหย่อนลงทำให้ดูตาลอยได้เหมือนกัน
ตาดำลอยขึ้น จากความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่กรอกตา
ลักษณะนี้เป็นมาตั้งแต่กำเนิด พบได้น้อยกว่าสาเหตุอื่น ซึ่งการแก้ไขตาลอยชนิดนี้ จะแตกต่างออกไปจากวิธีอื่น คือการผ่าตัดกล้ามเนื้อที่ใช้กรอกตา โดยดึงให้ตาลงมา
อาการตาลอย ส่งผลยังไงบ้าง?
อาการตาลอยส่งผลอย่างมากกับบุคลิกภาพ และส่งผลให้เราไม่มั่นใจในตัวเองด้วย เพราะอาจจะโดนทักเกี่ยวกับดวงตา บางทีทำให้ดูโทรมเหมือนคนไม่ได้นอน ทำให้คนตาลอยเสียความมั่นใจและหากมีอาการอื่นร่วมด้วย ก็อาจจะส่งผลกับการมองเห็น มาดูกันว่าอาการตาลอยส่งผลต่อบุคลิกภาพยังไง
1.คนตาลอยในเรื่องของบุคลิกภาพ ทำให้ดูเหนื่อย ดูง่วง ไม่สดใส
2.ดูตาโปนกว่าความเป็นจริง
3.หากมีกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้วย จะทำให้ลืมตายาก หรือบังการมองเห็นได้ถ้าเป็นมาก
4.คนที่มีลักษณะตาลอยอาจส่งผลให้หลับตาไม่สนิท ทำให้ตาแห้ง
วิธีแก้อาการตาลอย ทำอย่างไรได้บ้าง?
สำหรับการแก้ไขปัญหาตาลอยแนะนำว่าเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้อาการตาลอย อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของวิธีแก้ตาลอยแบบถาวร โดยส่วนใหญ่คนอาจจะใช้วิธีแก้ปัญหาตาลอยด้วยการใส่คอนแทคเลนซ์แบบ Big Eye เพื่อให้ตาดำดูใหญ่ขึ้น แต่มันอาจไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ดีมากตรงที่เมื่อถอดก็จะมีลักษณะของตาลอยเช่นเดิม และ มีข้อจำกัดในเรื่องของการใส่ ความสะอาดต่างๆอีกด้วย และนอกจากนี้วิธีแก้ตาลอยให้ถาวร ควรดูจากสาเหตุเป็นหลักด้วย โดยให้แพทย์วิเคราะห์ และ หากวิธีแก้ตาลอยอย่างถูกวิธี
- ถ้าตาลอยจากตาดำกรอกขึ้นด้านบน จากความผิดปกติแต่กำเนิด แก้ไขโดยการผ่าตัดกล้ามเนื้อที่กรอกตา เพื่อดึงให้ตาดำลงมา
- ถ้ามีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ให้แก้ไขกล้ามเนื้ออ่อนแรงก่อน ซึ่งตาลอยอาจจะหายได้ หรือ ดีขึ้นได้
- เย็บเอ็นตาล่างให้ขอบตาล่างสูงขึ้นแก้ไขตาลอย ไม่ว่าจะเป็นแต่กำเนิดหรือเป็นในภายหลัง แต่วิธีการผ่าตัดจะแตกต่างกันในทางเทคนิค ขึ้นกับสาเหตุ
ผ่าตัดแก้ไขตาลอย อันตรายไหม?
ในกระบวนการวิธีแก้ไขตาลอย มีหลากหลายวิธีในการผ่าตัดซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ และการประเมินของแพทย์สำหรับการผ่าตัดแก้ไขตาลอยด้วย แต่ในกรณีที่ไม่มีกล้ามเนื้อตาในอาการตาลอย ส่วนใหญ่แพทย์จะใช้วิธีการเย็บเอ็นตาล่างเพื่อแก้ปัญหาตาลอย โดยการแก้ไขตาลอย ไม่ได้อันตราย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ด้วย โดย inZ clinic จะมีจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ ประเมินว่าวิธีไหนเหมาะสมกับการแก้ปัญหาตาลอย และนอกจากนี้ inZ clinic ยังเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย รวมถึงการดูแลติดตามผลหลังผ่าตัด จึงเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับการแก้ปัญหาตาลอย
การเย็บเอ็นตาล่าง คืออะไร?
การเย็บเอ็นตาล่างคือการทำให้เปลือกตาล่างตึงขึ้น โดยเย็บเอ็นตาล่างด้านหางตาขึงกับขอบกระดูกเบ้าตาด้านข้าง เพื่อลดความหย่อนคล้อยของเปลือกตาล่าง และแก้ตำแหน่งหางตาล่างที่ผิดปกติ และเป็นวิธีการแก้ปัญหาตาลอย โดยการเย็บเอ็นตาล่างมักทำร่วมกับถุงใต้ตา เพื่อลดความหย่อนคล้อยของบริเวณตา และช่วยให้ไม่ดึงรั้งขอบตาล่างลงมาอีก
ก่อนผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาลอย ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ก่อนการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาตาลอย หลายคนอาจกังวลเพราะอาจยังไม่เคยมีประสบการณ์ผ่าตัด ดังนั้น จึงแนะนำการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ปัญหาตาลอยดังนี้
- ก่อนผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาลอย อย่างแรกต้องศึกษาหาคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และประเมินปัญหากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แจ้งทางคลินิกให้ทราบว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง และ แพ้ยาชนิดไหนก่อนเข้ารับการผ่าตัด และควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ในวันผ่าตัดไม่ควรแต่งหน้า หรือติดขนตาปลอม และ ควรพาคนมารับ หรือดูแลหลังทำเสร็จ
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ งดแอลกฮอล์และบุหรี่
เคล็ดลับแผลหายไว ผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาลอยเสร็จแล้วดูแลตัวเองยังไงดี?
อาการที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดเช่นบวมช้ำ เลือดซึมบริเวณแผล หรือตาแห้ง มักจะเกิดขึ้นได้หลังผ่าตัด และมักจะหายเองเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่สภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย หัวข้อนี้จะแนะนำการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้ไขปัญหาตาลอย
- หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นโดยใช้ผ้าก๊อซรองก่อน ระวังไม่ให้แผลเปียก ถ้ามีเลือดซึมสามารถใช้ผ้าก๊อซกดที่แผล ไม่ต้องแรง จนกว่าเลือดจะหยุดซึม
- นอนศีรษะสูงกว่าปกติเพื่อให้ช่วยลดอาการบวมช้ำและใช้สำลีสะอาดชุบน้ำเหลือทำความสะอาดแผลวันละ 1-2ครั้ง
- หลังวันที่ 3 เป็นต้นไป หากมีรอยเขียวช้ำ ให้เปลี่ยนจากประคบเย็นเป็นประคบอุ่นหรือสลับกันได้ เพื่อให้ช่วยลดบวมเร็วขึ้น
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและติดตามอาการ
- หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบติดต่อคลินิกเพื่อปรึกษาแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แอลกฮอล์และบุหรี่ประมาณ 2อาทิตย์ หรือจนกว่าแผลแห้งสนิท และกินอาหารที่มีประโยชน์ช่วยให้แผลหายไวขึ้น
สรุป
ปัญหาตาลอยปัญหากวนใจใครหลายคน และยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ และในบางเคสอาจส่งผลไปถึงการมองเห็น ทำให้เราไม่มั่นใจ แต่ปัญหานี้มีวิธีแก้แบบถาวร ช่วยเสริมความมั่นใจให้กลับคืนมา แต่ทั้งนี้อาจต้องศึกษาและเลือกคลินิกที่ทำให้เรามั่นใจในการรักษาปัญหาตาลอยได้ ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และความปลอดภัยของคลินิกเองด้วยเช่นกัน