เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หลายคนอาจเริ่มมีปัญหาหางตาตก ซึ่งเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตามหางตาตก ไม่ได้เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเสมอไป สามารถเกิดได้กับเด็กวัยรุ่นเช่นกัน และถึงแม้ว่าปัญหาหางตาตกเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหายได้เอง แต่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีผ่าตัดและไม่ผ่าตัด มาทำความเข้าใจกับอาการหางตาตกได้ในบทความนี้
หางตาตก คืออะไร?
หางตาตก คือภาวะที่ผิวหนังเปลือกตาส่วนหางตาตกลงมาในระดับต่ำกว่าช่วงหัวตา เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ร่างกายกลับผลิตคอลลาเจนลดน้อยลง ทำให้ผิวหรือไขมันที่สะสมบริเวณหางตาเกิดความหย่อนคล้อย ส่งผลให้ดวงตาดูเศร้าหมอง แลดูมีอายุ ชั้นตาบริเวณหางตาไม่ชัด โดยหางตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุ เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อรูปลักษณ์ อาจทำลายความมั่นใจของเราได้ แต่ปัญหาหางตาตกไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะสามารถแก้ปัญหานี้ โดยไม่ต้องทำตาสองชั้นได้ด้วยเทคนิค Subbrow Lifting
อาการหางตาตก สังเกตอย่างไร?
อาการหางตาตกสามารถสังเกตได้จากชั้นตาบริเวณหัวตาจะเห็นได้ชัดหรือใหญ่กว่าช่วงหางตา ซึ่งอาจเป็นเหตุมาจากการมีโหนกคิ้วนูนต่ำหรือมีผิวหนังเปลือกตาบริเวณหางตาอูมจากไขมันสะสม ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยลงมาปิดชั้นตา ชั้นตาหลบใน ดวงตาดูเศร้า อ่อนล้า และแลดูแก่กว่าวัย อีกทั้งในกรณีที่หางตาตกร่วมกับหนังตาตก สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำตาสองชั้นและตัดหนังตาส่วนเกินออก เพื่อดวงตาที่ดูสดใส
สาเหตุของอาการหางตาตก เกิดจากอะไร?
สาเหตุของอาการหางตาตกที่พบได้บ่อย คือการมีเนื้อเยื่อหรือไขมันบริเวณรอบดวงตาสะสม และการมีผิวหนังรอบดวงตาที่หย่อนคล้อย ด้วยปัจจัยด้านอายุที่เพิ่มมากขึ้น
เนื้อเยื่อหรือไขมันบริเวณรอบดวงตาสะสมมากเกินไป
การมีไขมันสะสมบริเวณรอบดวงตาในปริมาณมาก เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการหางตาตกที่สามารถพบได้มากในคนเอเชีย เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วคนเอเชียมักมีเปลือกตาที่หนา อูม ไขมันเยอะ ทำให้หนังตาหย่อนคล้อยลงมาปิดชั้นตา
ผิวหนังบริเวณหางตาหย่อนคล้อย
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่า เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดน้อยลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ผิวหนังรอบดวงตาไม่กระชับเหมือนเดิม จนเกิดเป็นภาวะหางตาตกและอาจมีหนังตาตกร่วมด้วย
ตัวอย่างเคสหางตาที่สวย?
สำหรับใครที่มีชั้นตาที่สวยอยู่แล้ว แต่ถูกบดบังด้วยปัญหาหางตาตก สามารถแก้ไขได้ โดยการทำ Subbrow Lifting หรือเทคนิคการยกหางตาที่ไม่จำเป็นต้องทำตาสองชั้น
หางตาตกแก้อย่างไร?
ปัญหาหางตาตกสามารถแก้ไขได้ด้วยทั้งวิธีผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด
แก้หางตาตกโดยไม่ผ่าตัด?
การแก้ปัญหาหางตาตก โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้มากกว่า 1 วิธี ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อหรือการใช้เทคโนโลยียกกระชับจากคลื่นเสียงความถี่สูงอย่าง Ulthera
สารคลายกล้ามเนื้อ
การฉีดโบ สามารถช่วยยกคิ้ว ยกหางตาได้เล็กน้อย แต่หากคนไข้มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยและหนังตาตกค่อนข้างมาก จะไม่เหมาะกับวิธีการนี้ ที่สำคัญการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อ เพื่อยกหางตา จะไม่เห็นผลชัดเจนและถาวรเหมือนกับการผ่าตัด คนไข้ต้องมาฉีดซ้ำๆทุก 4-6 เดือน
New Ulthera SPT
การทำ New Ulthera SPT รอบดวงตา สามารถช่วยเรื่องการยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถยกคิ้ว ยกหางตาได้เล็กน้อย และไม่เหมาะกับคนที่คิ้วตก หนังตาตกค่อนข้างมาก เพราะจะทำให้เห็นผลชัดเจน แต่จะได้ในเรื่องของผิวที่กระชับและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูเด็ก ดูอ่อนวัยกว่าอายุจริง
แก้หางตาตกโดยการผ่าตัดศัลยกรรม
หางตาตกสามารถแก้ไขและได้ผลลัพธ์ที่คงอยู่อย่างถาวร ด้วยวิธีผ่าตัดศัลยกรรมหรือการผ่าตัดยกหางตาด้วยเทคนิค Subbrow Lifting โดยเทคนิคนี้จะทำร่วมกับการศัลยกรรมตาสองชั้น หรือทำเพียงอย่างเดียวก็ได้ขึ้นอยู่กับปัญหาและความเหมาะสม
การยกหางตา แก้ไขหางตาตกด้วย Subbrow Lifting
การผ่าตัดยกหางตาด้วยเทคนิค Subbrow Lifting คือการแก้ปัญหาหางตาตก ด้วยการยกหางตาและเย็บยึดกับบริเวณกระดูกหางคิ้ว โดยแผลเย็บจะซ่อนอยู่ระนาบเดียวกับแนวคิ้ว เมื่อแผลหายสนิทจะแลดูเนียนไปกับแนวขนคิ้ว การทำเทคนิคนี้ นอกจากหางตาตกจะถูกยกขึ้นแล้ว ก็จะทำให้ดวงตาดูสดใสหน้าดูเด็กลงไปด้วย
อีกทั้งใครที่มีอาการหนังตาตกร่วมด้วย สามารถทำตาสองชั้นพร้อมกับเทคนิค Subbrow Lifting เพื่อดวงตาที่สวยเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งรอยแผลยาวเกินหางตา แต่สำหรับใครที่มีชั้นตาที่สวยอยู่แล้วและไม่ต้องการทำตาสองชั้น การทำ Subbrow Lifting ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากหลังการผ่าตัดจะมีอาการบวมช้ำน้อยกว่า แผลดูแลง่ายกว่า สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติหลังการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
หางตาตกรักษาแล้วมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ในการรักษาหางตาตก ไม่ว่าจะด้วยวิธีผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัด อาจเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาได้ทั้งสิ้น โดยผลข้างเคียงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ผลข้างเคียงจากการรักษาหางตาตกโดยไม่ผ่าตัด
ในการรักษาหางตาตกโดยไม่ผ่าตัด อาจมีผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น เกิดรอยแดงหลังจากการทำ Ulthera หรือรอยแดงจากเข็มหลังฉีดโบท็อกซ์ ทั้งนี้อาการเหล่านี้ สามารถหายไปได้เอง โดยจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน แต่วิธีการพวกนี้จะไม่ถาวรเหมือนการผ่าตัด
ผลข้างเคียงจากการรักษาหางตกโดยการผ่าตัด
ถึงแม้ว่า การผ่าตัดยกหางคิ้วหรือการทำ Subbrow Lifting เป็นเทคนิคที่มีอาการบวมช้ำหลังทำน้อย แต่สามารถมีอาการบวมช้ำบริเวณแผลได้ สามารถบรรเทาอาการบวมด้วยการประคบเย็นในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจึงประคบอุ่นสลับเย็น แผลและอาการบวมช้ำจะดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลังตัดไหม ควรทายาลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแผลที่เรียบเนียนไปกับแนวขอบคิ้ว ไร้รอยแผลให้เห็นเมื่อหายสนิท
ยกหางตาตก ราคาเท่าไหร่?
ยกหางตาด้วยเทคนิค Subbrow Lifting กับ inZ Clinic ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 29,800 บาท ดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ รับรองความปลอดภัยและมาตรฐาน แก้ปัญหาหางตาตก ช่วยให้เห็นชั้นตาชัด สวยตั้งแต่หัวตาจนถึงหางตา ขจัดปัญหาตาเศร้า แลดูอ่อนเยาว์ รอยแผลเรียบเนียนไปกับแนวขอบล่างคิ้ว อีกทั้งมีอาการบวมช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังเข้ารับการผ่าตัด
หางตาตกรักษาแล้วอยู่ได้นานไหม?
ผลลัพธ์หลังจากรักษาปัญหาหางตาตกสามารถคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีที่เข้ารับ โดยแบ่งวิธีที่เข้ารับการรักษาออกได้เป็น 2 วิธี คือ รักษาด้วยการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด
- รักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัด – ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้เพียงชั่วคราว ในกรณีที่แก้ปัญหาหางตาตกด้วยการฉีดสารคลายกล้ามเนื้อหรือการฉีดโบ ผลลัพธ์จะมีประสิทธิภาพ หากฉีดเป็นประจำทุก ๆ 4 ถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบและการดูแลตนเองของแต่ละคน ส่วนในกรณีที่แก้หางตาตกด้วยเทคโนโลยียกกระชับ Ulthera ผลลัพธ์จะสามารถคงอยู่ได้ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และปัจจัยอื่น ๆ
- รักษาด้วยวิธีผ่าตัด – ผลลัพธ์จะคงอยู่ถาวร เนื่องจากการผ่าตัดยกหางตาตกหรือการทำ Subbrow Lifting เป็นการนำผิวหนังส่วนเกินออกอย่างถาวร