การยกกระชับรอบดวงตาโดยไม่ใช้วิธีการผ่าตัด กำลังได้รับความนิยม เพราะนอกจากไม่ต้องพักฟื้นแล้ว ยังไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวอีกด้วย รวมถึงมีการวิจัยรับรองว่ามีมาตรฐาน และความปลอดภัย แต่เทคโนโลยีในการยกกระชับก็มีให้เลือกมากมาย แต่ที่เด่นๆ และเป็นที่ยอมรับคงจะเป็น Thermage FLX และ Ulthera แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเทคโนโลยี 2 อย่างนี้ เทคโนโลยีใดที่ยกกระชับได้ดีและเหมาะกับเรามากที่สุด
ความหย่อนคล้อยบริเวณดวงตา เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
อายุที่มากขึ้นทำให้การผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่น้อยลง ทำให้โครงสร้างผิวเกิดความหย่อนคล้อย ไม่เว้นแม้แต่ผิวบริเวณรอบดวงตาก็เช่นกัน ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องอายุแต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือ การขยี้ตา หรือถูตาก็ก่อให้เกิดปัญหาบริเวณรอบดวงตาด้วยเช่นกัน นอกจากความหย่อนคล้อยแล้ว ปัญหาต่างๆ เช่น ถุงใต้ตา เปลือกตาตก คิ้วตก ริ้วรอยรอบดวงตา ปัญหาร่องลึก ถุงใต้ตา รอยคล้ำรอบดวงตา ก็เป็นปัญหากวนใจ และทำให้ดูมีอายุมากขึ้น ซึ่งปัญหานี้มักจะมาพร้อมกับความหย่อนคล้อย ดังนั้น การใช้อายครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหารอบดวงตา อาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ทำให้เห็นผลได้ทันที หรือมีประสิทธิภาพมากพอ แม้กระทั่งการเปลี่ยนพฤติกรรม ก็อาจไม่ทันเวลา เทคโนโลยียกกระชับจึงกลายเป็นตัวเลือกสำหรับปัญหาความหย่อนคล้อยรอบดวงตาที่ดีอีกทางเลือกนึง
Ulthera และ Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร ?
Ulthera เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับที่ใช้คลื่น Ultrasound ซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่มีพลังงานความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound ) โดยคลื่นเสียงนี้จะลงลึกไปยังบริเวณเนื้อเยื่อชั้น SMAS และ ส่งผ่านความร้อนเป็นจุดเล็กๆจุดเท่าๆกัน กระบวนการทั้งหมดนี้จะทำให้เกิดการยกกระชับ และการกระตุ้นการสร้าง Collagen ใหม่ ทำให้ผิวค่อยๆเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยีที่จะใช้คลื่นความถี่วิทยุ (non-invasive Radio Frequency RF) เข้าไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ขึ้นมาใหม่ ทำให้มีความตึง กระชับ ไม่หย่อนคล้อย และนอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง สลายไขมันส่วนเกิน ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน
เทคโนโลยียกกระชับรอบดวงตาเหมาะกับใคร ?
Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย คิ้วตก หรือหางตาตก ต้องการการยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าและกรอบให้มีความเรียวนอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้แลดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ด้วย ดังนั้นอาจสรุปได้ว่าเหมาะกับ
– ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แต่มีไขมันบริเวณใบหน้าน้อย ไขมันบริเวณแก้มไม่เยอะมาก มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก
– กรอบหน้าไม่ชัด ไม่เห็นกราม ต้องการให้เห็นโครงหน้าที่ชัดเจน
– หนังตาตก หางตาตก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
– ต้องการฟื้นบำรุงผิวจากภายใน โดยการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวกลับมาเรียบเนียน
– อยากดึงหน้า ยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด
Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้าเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความหย่อนคล้อย ใบหน้ามีเนื้อเยอะหรือแก้มเยอะ ผู้ที่มีปัญหาเปลือกตาเริ่มตกมีรอยย่นบริเวณใบหน้าและบริเวณตา ต้องการไขมันและกระชับใบหน้าให้ดูแน่นขึ้น ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า เหมาะกับ
-ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะ มีริ้วรอย ร่องแก้มลึก
-มีไขมันบริเวณใต้ลำคอเยอะ ต้องการลดไขมันบริเวณคางและลำคอ
– ผู้ที่มีหนังตาตก ยกกระชับบริเวณรอบดวงตา รีดบริเวณตาเพื่อคืนความอ่อนเยาว์
– ผู้ที่ใบหน้าดูแก่กว่าอายุ หมองคล้ำ ไม่สดใส คอลลาเจนหรืออิลาสตินใต้ผิวหนังเสื่อม
– ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยวย่นบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และมือ
– ผู้ที่มีผิวไม่เรียบเนียน เป็นผิวเปลืองส้ม และเซลลูไลท์
เทคโนโลยีไหนเหมาะกับการใช้บริเวณรอบดวงตามากกว่ากัน
ทั้งสองเทคโนโลยี เหมาะกับปัญหาการหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตาแตกต่างกัน โดยอาจต้องมาดูกันที่สาเหตุว่าเกิดจากอะไร มีปัญหาแบบไหน เช่น หากมีปัญหาเกี่ยวกับไขมันบริเวณรอบดวงตาเยอะ อาจต้องเป็น Thermage FLX แต่ถ้าหากเกิดจากคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ทำให้หย่อนคล้อย และ พฤติกรรมทำให้เกิดถุงใต้ตา อาจจะเหมาะสมกับ Ulthera มากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินด้วย
Thermage FLX เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา หนังตาตก มีไขมันบริเวณเปลือกตาและใต้ตา ต้องการลดรอยย่นรอบดวงตา โดยจะเข้าไปทำการลดไขมันที่สะสมบริเวณเปลือกตาและถุงใต้ตา ทำให้เกิดการหดตัวของไขมัน ส่งผลให้เกิดการยกกระชับ และช่วยไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณส่วนที่เหี่ยวย่นทำให้เกิดความเรียบเนียน และตึงกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ลดถุงบริเวณใต้ตา คิ้วตก หางตาตก ต้องการยกคิ้วให้มองเห็นชั้นตาได้ชัดขึ้น โดยจะช่วยให้ชั้นผิวตึงขึ้น ทำให้บริเวณริ้วรอยรอบดวงตาแลดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อผิวตึงและกระชับขึ้นจะทำให้บริเวณคิ้วและเปลือกตายกขึ้นเผยให้เห็นดวงตาที่สดใสของเรา
แต่ทั้งสองเทคโนโลยีก็สามารถทำร่วมกันได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยกกระชับ และ ช่วยคลอบคลุมปัญหาที่เกิดรอบดวงตาได้มากขึ้น
อายุยังน้อยปัญหาบริเวณรอบดวงตายังไม่เยอะยกกระชับรอบดวงตาได้มั้ย ?
สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับรอบดวงตา แต่ปัญหาอาจยังไม่เยอะ หรือมีปัญหาเล็กน้อย สามารถทำได้ โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม และใช้ความถี่ที่ลดน้อยลงหรือเหมาะสมกับปัญหาที่มี ก็จะช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาและนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยในอนาคตอีกด้วย
ในช่วงอายุ 25-30 ปี หลายท่านอาจมีความต้องการอยากยกกระชับ บริเวณรอบดวงตา เพราะบางครั้งความเหี่ยวย่นรอบดวงตา อาจมาไวกว่าที่คิด จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ ทำให้บริเวณรอบดวงตาเกิดการเหี่ยวย่น หางตาตก ทำให้ดูแก่กว่าวัย แต่ไม่ได้อยากจะผ่าตัดเพื่อดึงหางตา ดังนั้น การใช้สองเทคโนโลยีนี้ถือว่าเป็นทางเลือกนึงที่สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่เป็นเทคโนโลยีสำหรับคนสูงอายุเท่านั้น อายุน้อยหากมีปัญหาก็สามารถใช้สองเทคโนโลยีนี้ในการช่วยยกกระชับได้
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของ Ulthera VS Thermage
ผลลัพธ์ของการรักษา Ulthera VS Thermage
ผลลัพท์ของการรักษาด้วย Ulthera บริเวณรอบดวงตา
- ถุงใต้ตาลดลง
- คิ้วยกขึ้น หางตายกขึ้น ทำให้เห็นชั้นตาได้ชัดเจน
- บริเวณริ้วรอยรอบดวงตาแลดูจางลง
- ผิวบริเวณรอบดวงตาแลดูเรียบเนียน
- ดวงตาดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Ulthera
ผลลัพท์ของการรักษาด้วย Thermage FLX บริเวณรอบดวงตา
- ถุงไขมันบริเวณใต้ตาลดลง
- ลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
- รอยย่นรอบดวงตาเรียบเนียนขึ้น
- เปลือกตาและบริเวณรอบดวงตาตึงกระชับ
- เพิ่มความอ่อนวัยรอบดวงตา
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย Thermage FLX
การทำ Thermage FLX และ Ulthera ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ทำแล้วเห็นผลทันทีมั้ย ?
ผลลัพธ์ของทั้งสองเทคโนโลยีจะอยู่ถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หลังทำจะเห็นความเปลี่ยนแปลงประมาณ 20-30% ว่ามีความกระชับกว่าเดิม และเห็นได้ชัดมากขึ้นหลังผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน เพราะคอลลาเจนจะค่อยๆถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้เห็นผลชัดเจนขึ้นทันทีว่าบริเวณที่ทำยกกระชับ และดูเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด
การใช้เทคโนโลยีการยกกระชับควบคู่กับการศัลยกรรมตาสองชั้น
สามารถทำควบคู่กันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า โดยอาจมีระยะเวลา และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับปัญหาที่เกิด โดยให้แพทย์ที่ดูแลเป็นผู้แนะนำ และให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นหลังการผ่าตัดถุงใต้ตา ทำให้ดวงตาคู่สวย ยิ่งสวยปังเข้าไปอีก
ทำไมต้องเป็นเทคโนโลยี Ulthera และ Thermage FLX เท่านั้น
เพราะทั้งสองเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่มีการวิจัยรองรับ และมีการวิจัยอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องผลลัพท์และความปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากหลายประเทศ ดังนั้นเราจึงเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดคือตัวนี้มาใช้ในคลินิก เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และปลอดภัยจากเครื่องที่ได้มาตรฐาน มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้แน่นอน
ULTHERA
หลักการทำงานคือการส่งคลื่น Advanced Focused Ultrasound เข้าไปจนถึงชั้นลึกสุดคือ ชั้น SMAS ซี่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ศัลยกรรมดึงใบหน้า จึงเหมือนการยกกระชับ ดึงหน้าชั้นเดียวกับหมอศัลยกรรม ทำให้ผิวยกกระชับแบบดูแน่นขึ้น ดูเต่งตึง ทำให้บริเวณใบหน้าดูยกขึ้น
THERMAGE FLX
เป็นการส่งคลื่นวิทยุไปถึงชั้นหนังแท้ ที่มีอิลาสติน และคอลลาเจนอยู่ โดยจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวยกกระชับ ไม่หย่อนคล้อย นอกจากนี้ยังเหมาะกับใบหน้าที่มีชั้นไขมันหนา เพราะสามารถปรับระดับการยิงให้เหมาะกับความหนาของชั้นไขมันได้
ยกกระชับรอบดวงตาใช้เวลาในการทำนานแค่ไหน
ทั้งสองเทคโนโลยีใช้เวลาในการทำไม่นานประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งรวมถึงการแปะยาชาแล้ว โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตและบริเวณที่ทำ หากทำแค่เฉพาะบริเวณ เช่น รอบดวงตาก็อาจใช้เวลาน้อย แต่ถ้าทำทั่วหน้าก็จะใช้ระยะเวลามากขึ้น
จุดเด่นของการกระชับผิวบริเวณรอบดวงตาที่ inZ Clinic
เพราะบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางมากที่สุด การรักษา หรือ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่ง Inz Clinic เรามีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยียกกระชับเป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้เกี่ยวกับชั้นผิว ทำให้เข้าใจโครงสร้างของผิว ชั้นผิว และวิเคราะห์ปัญหาของความหย่อนคล้อยออกมา เพื่อเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ทำให้การยกกระชับมีประสิทธิภาพดีที่สุด
นอกจากเรื่องของแพทย์แล้ว สิ่งที่ต้องดูก่อนเข้ารับบริการคือเรื่องการใช้เทคโนโลยีของแท้ ซึ่งสามารถมั่นใจได้ว่า inZ Clinic เราใช้เครื่องยกกระชับของแท้ ทั้งหัวและเครื่อง ซึ่งมีการรับรองว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน