ล้างตาอย่างถูกวิธี เพื่อดูแลดวงตาคู่สวย ป้องกันการเกิดอาการแทรกซ้อน

           ดวงตาเป็นอวัยวะในร่างกายที่บอบบาง และสำคัญอย่างมาก เราทุกคนจึงควรดูแลรักษาสุขภาพดวงตาของเราให้ดี รู้วิธีล้างตาที่ถูกต้อง และเมื่อต้องไปในสถานที่ที่มีฝุ่น มลภาวะล่องลอยในอากาศหรือต้องทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกสิ่งแปลกปลอมกระเด็นเข้าตา หากเกิดอาการระคายเคืองจากสิ่งแปลกปลอม ควรทำการล้างตา เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยว่า ล้างตาด้วยอะไรได้บ้าง ? ใช้น้ำประปาล้างตาได้ไหม ?

ทำไมจึงต้องล้างตา

           เมื่อดวงตาเกิดอาการระคายเคืองหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี ฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ควรทำความสะอาดหรือล้างตาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตา และการมองเห็นของเราได้ 

           แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากไม่ทำความสะอาดดวงตาหรือล้างตา ? การละเลยสุขอนามัยรอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นการล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด การถูขยี้ตาด้วยมือที่สกปรก พฤติกรรมเหล่านี้ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่สามารถก่อให้เกิดอาการผิดปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการเปลือกตาอักเสบหรือเปลือกตาบวมแดง ตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบ มากไปกว่านั้น หากสารเคมีกระเด็นเข้าตา แล้วไม่รีบล้างตา อาจเป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้

ล้างตาด้วยอะไรได้บ้าง

           มาดูวิธีทำความสะอาดล้างตาที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อดูแลดวงตาของเราให้สดใส ห่างไกลความผิดปกติที่อาจเป็นอันตรายต่อการมองเห็นกันเลย

ล้างตาด้วยน้ำเกลือ

           ล้างตาด้วยน้ำเกลือได้ไหม ? ล้างตาด้วยน้ำเกลือแสบตาหรือเปล่า ? น้ำเกลือหรือ Normal Saline นั้น ได้รับการฆ่าเชื้อ รับรองได้ถึงความสะอาด ปลอดภัย และความเค็มของน้ำเกลือเทียบเท่ากับน้ำตาของเรา จึงไม่ทำให้แสบตา ดังนั้นเมื่อมีสิ่งสกปรก ฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา สามารถใช้น้ำเกลือล้างตาได้ทันที โดยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใช้นิ้วมือดึงเปลือกตาข้างที่ต้องการล้างลง จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำเกลือชำระสิ่งสกปรก

           รวมถึงในช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น สามารถใช้น้ำเกลือชุบไม้พันสำลีทำความสะอาด และเช็ดคราบเลือดบริเวณแผลได้ ไม่เป็นอันตรายใดใด แต่ใครที่ต้องการทำตาสองชั้นแบบไม่มีแผล inZ Clinic มีเทคนิคทำตาไร้รอยแผล ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะของคลินิก หลังทำสามารถโดนน้ำ ล้างหน้า แต่งหน้าได้ปกติ

ล้างตาด้วยน้ำยาล้างตา

           น้ำยาล้างตา สามารถนำมาล้างตา เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาหรือมีอาการระคายเคือง แสบตา เนื่องจากน้ำยาล้างตาเป็นน้ำที่ปราศจากเชื้อ มีสารควบคุมความเป็นกรดด่าง และสารอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนใช้ หากอาการเคืองตา แสบตาไม่ดีขึ้นหรืออาการมีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อหาตรวจหาความผิดปกติ และรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

 ล้างตา และประคบอุ่น

           คนที่กำลังประสบปัญหาเปลือกตาอักเสบ ต่อมไขมันเปลือกตาอุดตันหรือมีอาการตาล้า สามารถประคบอุ่น และล้างตา ทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา เพื่อเป็นการบรรเทาอาการอุดตันของต่อมไขมัน และช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งการประคบอุ่นยังเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น เนื่องจากการประคบอุ่นจะช่วยให้รอยเขียวหรือรอยช้ำหายได้เร็วยิ่งขึ้น

สิ่งที่ห้ามทำเมื่อมีอะไรเข้าตา

           เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา จนเกิดอาการระคายเคือง หลายคนอาจเผลอขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว แต่การถูขยี้ตาเป็นพฤติกรรมที่ทำให้อาการผิดปกติแย่ลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงในกรณีที่ขยี้ตาอย่างแรง อาจทำให้เกิดแผลที่กระจกตาได้ 

           นอกจากนี้พฤติกรรมการขยี้ตาเป็นประจำ อาจนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และผิวหนังรอบดวงตาเหี่ยวย่นได้อีกด้วย

ใช้น้ำประปาล้างตาได้หรือไม่

           ใช้น้ำประปาล้างตาได้หรือไม่ ? ต้องบอกเลยว่า ใครที่ใช้น้ำประปาล้างตาอยู่ ต้องหยุดพฤติกรรมนี้โดยด่วน เนื่องจาก น้ำประปาที่เราใช้กันทุกวันนี้ มีคลอรีน เชื้อโรคปะปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย อะมีบา และถึงแม้เชื้อโรคที่กล่าวมา จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่สามารถทำให้ดวงตาเกิดการติดเชื้อได้ 

           อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สารเคมีเข้าตา ควรใช้น้ำเกลือหรือน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ล้างตาให้เร็วที่สุด หากไม่มีทั้งสองอย่างที่กล่าวมา สามารถใช้น้ำประปาล้างตาก่อนได้ เพราะหากปล่อยให้สารเคมีอยู่ในดวงตานานเท่าไหร่ ยิ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาเรามากเท่านั้น

ล้างตาเป็นประจำได้หรือไม่

           หากดวงตาไม่มีอาการผิดปกติใดใดหรือไม่มีอาการระคายเคือง ไม่แนะนำให้ล้างตาเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากโดยปกติแล้ว ร่างกายมีการสร้างน้ำตาหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่ตลอด การล้างตาด้วยน้ำยาล้างตาบ่อย ๆ จึงสามารถก่อให้เกิดอาการตาแห้ง ระคายเคืองได้

           กรณีที่มีอาการระคายเคืองหรือดวงตามีความผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาได้อย่างตรงจุด