ตาแฉะ น้ำตาไหลมาก อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม !

           อาการตาแฉะ น้ำตาไหลมาก เป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ สามารถเกิดขึ้นง่ายมากกว่าที่เราคิด มาเรียนรู้สาเหตุ วิธีรักษา และวิธีป้องกันอาการตาแฉะที่ก่อให้เกิดความยากลำบากในการมองเห็น เพื่อดูแลสุขภาพดวงตาที่แข็งแรงให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

Table of Contents

    ตาแฉะ คืออะไร

               ตาแฉะ คือ ลักษณะอาการผิดปกติของดวงตาที่ผลิตน้ำตาออกมาในปริมาณมากเกินไป ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการตาแฉะ อาจเป็นสัญญานเตือนของความผิดปกติที่อันตรายต่อดวงตาของเราได้ มาดูสาเหตุของอาการตาแฉะ เพื่อรีบสังเกตอาการ และรับการรักษาในทันที

    ตาแฉะ เกิดจากอะไร

               อาการตาแฉะ เป็นหนึ่งในอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ร่วมกับปัญหาหรือความผิดปกติอื่น ๆ ของดวงตา เช่น อาการตาแห้ง ตาแดง เปลือกตาอักเสบ และอีกมากมาย ดังต่อไปนี้

    ตาแฉะเกิดจากอะไร

    ตาแห้ง

    หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมตาแห้งถึงทำให้เกิดอาการตาแฉะ ? นั่นก็เป็นเพราะเมื่อต่อมไขมันที่บริเวณเปลือกตา (Meibomian Gland) ทำงานผิดปกติ จะทำให้น้ำตาที่มีหน้าที่หล่อเลี้ยงลูกตาเกิดการระเหยเร็วขึ้น ต่อมน้ำตา จึงผลิตน้ำตามาทดแทนในปริมาณที่มากเกินไป

    ตาแดง หรือ เยื่อบุตาอักเสบ

    อาการตาแฉะ สามารถเกิดได้จากอาการอักเสบที่เยื่อบุตาหรือที่เราอาจเคยได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ว่า อาการ ‘ตาแดง’ โดยเยื่อบุตาอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงสามารถเกิดจากการเป็นภูมิแพ้ นอกจากจะทำให้ตาแฉะ น้ำตาไหลมากผิดปกติแล้ว อาจมีอาการระคายเคือง รู้สึกมีอะไรอยู่ภายในตา และมีขี้ตาเหนียวเกาะบริเวณขอบเปลือกตาร่วมด้วย

    เปลือกตาอักเสบ

    เปลือกตาอักเสบ เป็นอาการที่สามารถเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อ ไรขนตา และต่อมไขมันเปลือกตาอุดตัน ทำให้เกิดอาการตาแฉะ รวมถึงอาการคัน เปลือกตาบวมแดง มีขี้ตามาก และอื่น ๆ อีกมากมาย หากมีอาการรุนแรง ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา

    ภูมิแพ้ขึ้นตา

    ภูมิแพ้ขึ้นตา เกิดจากการที่ร่างกายของเราถูกกระตุ้น และตอบสนองต่อสิ่งเร้าหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาหาร ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่บริเวณเยื่อบุตาขาว ทำให้เกิดอาการคัน ตาแดง และเกิดอาการตาแฉะ

    ท่อน้ำตาอุดตัน

    ท่อน้ำตาอุดตันหรือภาวะที่น้ำตาไม่สามารถระบายออกจากดวงตาได้ตามปกติ ทำให้น้ำตาเอ่ออยู่ภายในดวงตา ตาแฉะ เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของลิ้นเปิดปิดท่อน้ำตา รวมถึงอาการตาแฉะ ยังก่อให้เกิดความยากลำบากในการมองเห็นด้วยเช่นกัน

    ขนตาทิ่มตา

    อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแฉะหรือน้ำตาไหลผิดปกติ นั่นก็คือ ภาวะขนตาทิ่มตา ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อตา เปลือกตาอักเสบ หรืออาจเกิดจากลักษณะของเปลือกตา เช่น ไขมันที่เปลือกตาเยอะหรือหนา เปลือกตาม้วนเข้า หนังตาตก


    วิธีรักษาอาการ ตาแฉะ

               วิธีรักษาอาการตาแฉะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของอาการ หากเกิดอาการตาแฉะ ควรรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อที่จะสามารถดูแลรักษาได้อย่างตรงจุด กรณีที่สาเหตุของอาการตาแฉะ คือ ความผิดปกติของระบบการทำงานในร่างกาย สามารถเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษา ส่วนอาการตาแฉะจากลักษณะเปลือกตาที่ทำให้เกิดภาวะขนตาทิ่มตา เช่น เปลือกตาไขมันสะสมมาก หรือหนังตาตก สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตาสองชั้น

    รีวิวทำตาสองชั้น

    ใครที่มีปัญหาเปลือกตาบนหนาอูมจากปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป สามารถแก้ได้ไม่ยาก ด้วยการทำตาสองชั้นกับ inZ Clinic ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องความเป็นธรรมชาติ ออกแบบชั้นตาให้เข้ากับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน

    ตาแฉะ น้ำตาไหลมาก อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม !
    ตาแฉะ น้ำตาไหลมาก อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม !
    ตาแฉะ น้ำตาไหลมาก อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม !
    ตาแฉะ น้ำตาไหลมาก อาการผิดปกติที่ไม่ควรมองข้าม !

    วิธีป้องกัน อาการตาแฉะ

               การป้องกันการเกิดอาการตาแฉะ คือ การหลีกเลี่ยงหรือลดโอกาสที่ทำให้ดวงตาของเราเกิดความผิดปกติ โดยวิธีป้องกันตาแฉะ สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

    หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

    การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เป็นการป้องกันอาการตาแฉะ รวมถึงป้องกันอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

    รักษาความสะอาด

    หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ดวงตาเกิดอาการผิดปกติ คือ การติดเชื้อ ซึ่งนำไปสู่การเกิดอาการตาแฉะ จึงควรหลีกเลี่ยงการถูขยี้ตาหรือสัมผัสบริเวณรอบดวงตาด้วยมือที่ไม่สะอาด รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า เครื่องสำอาง

    สวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา

    เมื่อต้องไปยังสถานที่ที่มีฝุ่น ควัน และมลภาวะหรือต้องทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการมีสิ่งแปลกปลอมกระเด็นเข้าตา ควรสวมแว่นหรืออุปกรณ์ป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่นำไปสู่อาการตาแฉะ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตา การมองเห็นของเรา

    ใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกสุขลักษณะ

    ใครที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ควรรู้วิธีการใส่คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง เช่น ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสคอนแทคเลนส์ ต้องเปลี่ยนตลับแช่คอนแทคเลนส์ทุกเดือน และไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง เพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดี ลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ

    คงความชุ่มชื้นให้ร่างกาย

    การคงความชุ่มชื้นให้ร่างกาย ด้วยการดื่มน้ำสะอาด 8 – 10 แก้วต่อวัน ช่วยป้องกันอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตาแฉะได้ และใครที่มีอาการตาแห้งจากการใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมหรือหนังสือเป็นระยะเวลานาน สามารถหยอดน้ำตาเทียม เพื่อบรรเทาอาการได้

    ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ

    อีกหนึ่งวิธีการป้องกันการเกิดอาการตาแฉะ คือ การตรวจตาเป็นประจำทุกปี หากพบเจอความผิดปกติ สามารถเข้ารับการรักษาได้ในทันที

    สรุป

               ตาแฉะหรือภาวะที่น้ำตาไหลมาก คือ อาการที่เกิดขึ้น เมื่อดวงตาเกิดความผิดปกติ เช่น ติดเชื้อ เยื่อบุตาอักเสบ หรือมีภาวะขนตาทิ่มตา สามารถแก้ได้ด้วยการเข้ารับการรักษาอาการผิดปกติเหล่านั้น รวมถึงสามารถแก้ปัญหาด้วยการศัลยกรรม ทั้งนี้สามารถป้องกันการเกิดอาการตาแฉะได้ด้วยการรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และอื่น ๆ