ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

                             คนส่วนใหญ่ดูแลใบหน้าอย่างดีแต่มักจะมองข้ามบริเวณดวงตาไป เชื่อกันไหมคะว่าดวงตาของเราสามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง ยิ่งเวลาที่เราพูดคุยกับผู้คน ดวงตาก็เป็นจุดแรกๆที่คู่สนทนาจะมอง เหมือนคำกล่าวที่ว่า ‘ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ’ วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหารอบดวงตาที่ทำให้หน้าดูมีอายุ หรือทำให้ดูแก่กว่าวัย และวิธีการแก้ไขที่ช่วยให้เรากลับมาดูเด็กได้อีกครั้งค่ะ

Table of Contents

     ปัญหาแบบไหนที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

                                 การที่เราดูหน้าแก่กว่าวัยเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเรื่องของผิว ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือแม้กระทั่งดวงตา หากดวงตาเหี่ยวย่น หรือ ลักษณะดวงตาทำให้ดูแก่ ก็ส่งผลให้โครงหน้าโดยรวมของเราดูหน้าแก่กว่าวัยด้วยเหมือนกัน แต่ในส่วนนี้จะพูดถึงเฉพาะปัญหารอบดวงตาที่ทำให้ดูหน้าแก่กว่าวัย  

    1.หนังตาตก

    หนังตาตกคือลักษณะหนังตาหย่อนลงมาปิดชั้นตา เพราะหนังตาที่เหี่ยวย่นจะทำให้ดูหน้าแก่กว่าวัย ดูมีอายุมากขึ้น โดยปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตาสองชั้นร่วมกับตัดเก็บหนังตาส่วนเกินซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาตรงกับสาเหตุ การแก้ไขปัญหาหนังตาตกจะทำให้ดวงตากลับมาดูอ่อนเยาว์ ไม่ดูหน้าแก่กว่าวัย

    ตัวอย่างหนังตาตกทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    2. ตาตก ตาปรือ ตาง่วงนอน

    ลักษณะของตาตก ตาปรือ ตาง่วง คือ ขอบเปลือกตาปิดลงมาด้วยทำให้เห็นตาดำเล็กลง ตาดูปรือ เหมือนคนง่วงนอน ตาง่วง และหน้าแก่กว่าวัย เมื่ออายุมากขึ้นนอกจากหนังตาตกลงมาตามความหย่อนคล้อยแล้ว บางที่ตาก็ตกปรือลงมาด้วยเหมือนกัน มักเกิดจากพฤติกรรมที่ขยี้ตาบ่อยๆ หรือเป็นภูมิแพ้ ในกรณีนี้หากทำตาสองชั้นอาจจำเป็นต้องเย็บกล้ามเนื้อตาแก้ไขอาการตาปรือ เพื่อให้ตาเปิดโตขึ้นมาเป็นปกติ แล้วจึงทำตาสองชั้นและตัดเก็บหนังตาส่วนเกินร่วมด้วย หลังผ่าตัดแล้วจะทำให้เห็นดวงตามากขึน ดวงตาดูสดใสกว่าเดิม ไม่หน้าแก่กว่าวัย

    ตัวอย่างตาปรือ ตาง่วงนอน ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    3. ชั้นตาซ้อนพับกันหลายชั้น

    ลักษณะของชั้นตาซ้อนพับกันหลายชั้นบางครั้งอาจเกิดจากอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อไม่มีแรงในการพับชั้นตา จึงทำให้เกิดการซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ตาดูปรือ ตาดูง่วงนอน ทำให้ดวงตาดูลืมไม่เต็มที่ ไม่สดใส และลักษณะชั้นตาไม่ชัดเจน ดูเหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงส่งผลให้ดูหน้าแก่กว่าวัย โดยวิธีการแก้ปัญหานี้ ในการผ่าตัดจะผ่าตัดลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อตา เพื่อปรับระดับการยกขึ้นของเปลือกตา ร่วมกับการกรีดยาวเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินออก ทำให้ชั้นตาที่ซ้อนพับกันหายไปหมดปัญหาหน้าแก่กว่าวัย

    4. เบ้าตาลึก

    เบ้าตาลึก จะมีลักษณะของร่องลึกอยู่เหนือเปลือกตา ส่วนมากจะพบในผู้ที่มีอายุมาก หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย ซึ่งจะเห็นเบ้าตาลึกที่ชัดกว่าปกติ ดูเป็นคนง่วงนอนตลอดเวลา ดูหน้าแก่กว่าวัย เกิดจากไขมันใต้เปลือกตาหายไปจากตำแหน่งที่ลึก ทำให้ตาดูโหล ดูโทรม มองแล้วดูมีอายุ ดังนั้นการผ่าตัดเพื่อปรับกล้ามเนื้อตาจะช่วยให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์ และไม่แก่กว่าวัย ดวงตากลับมาสดใส ไม่โทรม

    ตัวอย่างเคสเบ้าตาลึกทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    5. ชั้นตาใหญ่เกินไป

    หลายท่านเวลาศัลยกรรมตาสองชั้นมักขอชั้นตาใหญ่เกินไป จนบางครั้งอาจลืมคำนึงถึงความเหมาะสมกับโครงหน้าของตัวเอง เพราะ หากชั้นตาใหญ่เกินไป หรือชิดคิ้วมากเกินไปจะทำให้หน้าแก่กว่าวัย โทรม มีอายุ  และหากเป็นเคสที่แพทย์แก้ลำบากแล้ว เรียกได้ว่าอาจต้องอยู่กับชั้นตาเดิมไปอีกนาน ดังนั้น ก่อนการศัลยกรรมตาสองชั้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีความชำนาญ สามารถให้คำปรึกษาได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ หรือ ควรทำแบบไหนถึงจะเหมาะกับใบหน้า จะช่วยลดปัญหานี้ได้ เพราะจะทำให้ได้ชั้นตาที่เหมาะสมกับรูปหน้า และดูอ่อนกว่าวัย

    รีวิวเคสที่ทำตาแล้วหน้าเด็ก

    ปัญหาก่อนทำ : ก่อนทำตาคนไข้มีชั้น ตาไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งเห็นเป็นชั้นตาหลบใน อีกข้างหนึ่งไม่เห็นชั้นตาเลย

    เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด: แพทย์ผ่าตัดด้วยเทคนิคกรีดยาวตัดหนังตาส่วนเกิน และออกแบบชั้นตาให้ดูคมชัดขึ้น จากภาพจะเห็นว่าหลังจากคนไข้แต่งหน้าแต่งตาแล้วเห็นสีของอายแชโดว์และอายไลน์เนอร์ได้ชัดเจน ตาดูหวานขึ้นมาก

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาก่อนทำ : ก่อนทำตาคนไข้ตาปรือ เป็นร่องลึกบริเวณเหนือเปลือกตา และมีหนังตาเยอะ ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัย

    เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด : แพทย์แก้ไขด้วยเทคนิค ‘Big eye surgery’ และย้ายไขมันเพื่อไปหนุนบริเวณเบ้าตาที่ลึก

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาก่อนทำ : ก่อนทำตาคนไข้มีลักษณะตาชั้นเดียว หนังตาค่อนข้างเยอะ เมื่อหนังตาตกลงมาทำให้ดวงตาดูเล็กลง และหัวตาปิด

    เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด : แพทย์แก้ไขด้วยเทคนิคกรีดยาวตัดหนังตาและไขมันส่วนเกินทิ้ง ออกแบบชั้นตาใหม่ โดยใช้การเปิดหัวตาร่วมด้วย ทำให้ได้ชั้นตาที่โค้งสวยตลอดแนวอีกทั้งยังดูเป็นธรรมชาติ

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาก่อนทำ : ก่อนทำตาคนไข้มีภาวะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชัดเจน เปลือกตาบนปรือลงมาปิดตาดำมากกว่าปกติ มีชั้นตาซ้อนทับกันหลายชั้น ทำให้ตาดูปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา

    เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด : แพทย์แก้ไขด้วยเทคนิคเฉพาะ ‘Big eye surgery’ กรีดยาวเพื่อตัดหนังตา และไขมันส่วนเกินออก ร่วมกับเย็บปรับกล้ามเนื้อตาเพื่อยกระดับการยกของเปลือกตา เปิดให้ตาดำเห็นชัดเจนขึ้น และเปิดหัวตาเพื่อให้เห็นชั้นตาตลอดแนว อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาตาเขทำให้ดวงตาดูสมดุลยิ่งขึ้น

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    ปัญหาก่อนทำ : ก่อนทำตาคนไข้มีภาวะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชัดเจน เปลือกตาบนปรือลงมาปิดตาดำ มากกว่าปกติ มีชั้นตาซ้อนทับกันหลายชั้น ทำให้ตาดูปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา

    เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด : แพทย์แก้ไขด้วยเทคนิคเฉพาะ ‘Big eye surgery’ กรีดยาวเพื่อตัดหนังตา และไขมันส่วนเกินออก ร่วมกับเย็บปรับกล้ามเนื้อตาเพื่อยกระดับการยกของเปลือกตา เปิดให้ตาดำเห็นชัดเจนขึ้น และเปิดหัวตาเพื่อให้เห็นชั้นตาตลอดแนว อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาตาเขทำให้ดวงตาดูสมดุลยิ่งขึ้น

    ปัญหาตาที่ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย

    สาเหตุทำให้หน้าแก่ก่อนวัย

                                 สาเหตุที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัยมีหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งปัจจัยภายนอกเช่นแสงแดด ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็สามารถเข้าไปทำลายชั้นเซลล์ผิวทำให้หน้าแก่กว่าวัยได้ เรามาดูกันดีกว่าว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุทำให้หน้าแก่กว่าวัย

    1. ความเครียด

    ความเครียดเป็นสิ่งที่หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งในสังคมปัจจุบัน ยิ่งเป็นการเพิ่มความเครียดมากกว่าเดิม แต่รู้มั้ยว่าความเครียดนั้นเป็นอีก 1 สาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัย เพราะเมื่อเราเครียด มักจะมีผลต่อสีหน้าและความรู้สึก  ส่งผลให้เราเผลอแสดงความรู้สึกผ่านทางใบหน้า เช่น ขมวดคิ้ว หรือแม้แต่กระทั่งพฤติกรรมทีเผลอเวลาเครียดเช่นจับใบหน้า จับรอบดวงตาบ่อยครั้งก็ส่งผลให้เกิดริ้วรอย หน้าแก่กว่าวัย และส่งผลให้ใบหน้าเกิดรอยย่น อีกทั้งความเครียดส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดหรือ ฮอร์โมนเคอร์ติซอลและทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะไปทำลายเซลล์ผิว และทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ช่วยผิวเต่งตึง หายไป จึงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและหน้าแก่กว่าวัย

    2. ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

    การดื่มแอลกฮอล์และสูบบุหรี่ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัย การสูบบุหรี่ที่มีสารประกอบคือนิโคติน จะเข้าไปขัดขวางการทำงานของการไหลเวียนเลือดช้าลง ส่งผลให้ผิวแห้ง และดูหย่อนยานกว่าเดิม  ดังนั้น บุหรี่ไม่ใช่แค่ทำลายสุขภาพอย่างเดียว แต่ยังทำร้ายผิวของเราให้ดูหน้าแก่กว่าวัยอีกด้วย

    และการดื่มแอลกฮอล์ ควรดื่มแต่พอดี เพราะหากดื่มมากเกินไป ไม่เพียงแต่ทำให้สุขภาพย่ำแย่ แต่ยังส่งผลไปถึงผิวทำให้ผิวเสีย เพราะการดื่มแอลกฮอล์จะเป็นการขับน้ำภายในร่างกายออกมากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวแห้ง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยทำให้ผิวดูหน้าแก่กว่าวัยนั่นเอง

    3. นอนดึก

    พฤติกรรมการนอนก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัย เพราะร่างกายเราจะซ่อมแซ่มเซลล์ผิวในช่วงเวลาที่เรานอนพักผ่อน และจะสร้างคอลลาเจนขึ้นมาชช่วยให้ผิวไม่เหี่ยว ไม่แห้งตึง รวมถึงการหลั่งของโกรทฮอร์โมน หากเราอดนอนแน่นอนว่าประสิทธิภาพการหลั่งของฮอร์โมนก็จะลดลง ร่างกายไม่ได้ซ่อมแซ่มเซลล์ผิวเท่าที่ควร  ทำให้วงจรการผลัดเซลล์ผิวไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวหน้าของเราอ่อนแอ ขาดความชุ่มชื่น และคอลลาเจนและอิลาสตินเสื่อมลง ส่งผลให้หน้าเหี่ยวย่น ดูแก่กว่าวัย และแม้กระทั่งรอบดวงที่ส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวขยายขึ้นหากนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ ก่อเกิดเป็นใต้ตาคล้ำ และเกิดรอยเหี่ยวย่อนที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัย

    4. แสงแดด

    แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลให้หน้าแก่กว่าวัยซึ่งเรามองข้ามไม่ได้ เพราะ แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เราเรียกกันว่ารังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระภายในผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ ผิวคล้ำ  และก่อให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ใครที่ไม่ชอบทากันแดด หรือมักออกที่แจ้งเป็นประจำ หากละเลยปัจจัยนี้ เรียกได้ว่าหน้าแก่กว่าวัยมาหาแน่นอน

    5. ควันและมลพิษ

    ปัจจัยภายนอกที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัยและควรระวังไม่แพ้แสงแดดคคือควันและมลพิษ ยิ่งในปัจจุบันแล้ว ฝุ่น PM2.5 ก็ยังมีอยู่เยอะ ควันจากท่อไอเสียที่เราเจอตามท้องถนนก็เป็นปัจจัยนึงที่ทำให้หน้าแก่กว่าวัยเช่นกัน เพราะควันและมลพิษจะเข้าไปทำปฎิกิริยากับออกซินเจนภายในผิวและก่อให้เกิดเป็นสารอนุมูลอิสระ ที่จะเข้าไปทำลายโครงสร้างผิวให้เหี่ยว และดูแก่กว่าวัย

    ดูแลผิวรอบดวงตาอย่างไรไม่ให้หน้าแก่กว่าวัย

                                 บางปัญหาหน้าแก่กว่าวัยที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ได้ต้องแก้ไขด้วยการศัลยกรรมตาเท่านั้น แต่บางอย่างสามารถใช้นวัตรกรรมใหม่ๆ  เช่น Ulthera , Thermage FLX เทคโนโลยียกกระชับในการช่วยฟื้นฟู และดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาได้หรือแม้กระทั่งการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก็อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ดีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการศัลยกรรม

    1. ครีมกันแดด

    ครีมกันแดดเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการป้องกันแสงแดดที่มีผลทำให้หน้าแก่กว่าวัย เพราะครีมกันแดดจะช่วยป้องกันรังสี UV  ที่มากระทบกับผิว พยายามทาครีมกันแดดทุกวันและทาให้ถูกวิธี นั่นคือการทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ หากต้องอยู่กลางแจ้งนานก็ควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง ดังนั้น ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย

    2. ทาอายครีม

    การทาอายครีมจะช่วยให้ปัญหาผิวรอบดวงตาลดลงแต่ก็ต้องบำรุงให้ถูกวิธี หรืออาจทำพร้อมการนวดบริเวณรอบดวงตาด้วยก็ได้ เพื่อช่วยให้เลือดบริเวณนั้นไหลเวียนดี และส่งผลให้หน้าอ่อนเยาว์ การทาอายครีมแนะนำทาบริเวณสามจุดรอบดวงตา คือช่วง หัวตา กลางตา และหางตา เพื่อให้ครีมถูกทาทั่ว และพยายามอย่ากดมากเพื่อช่วยถนอมผิวรอบดวงตา และช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาไม่ให้ดูหน้าแก่กว่าวัย

    3.  พักผ่อนให้เพียงพอ

    การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซ่มเซลล์ผิวได้อย่างเต็มที่ และสามารถหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา ช่วยให้คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น เด้ง และดูอ่อนกว่าวัย นอกจากการพักผ่อนเพียงพอจจะไม่ทำให้แก่กว่าวัยแล้วยังช่วยให้ผิวดูขาวใส เปล่งปลั่งอีกด้วย

    4. กินอาหารเสริม

    การกินอาหารเสริมเช่นวิตามินที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี สารสกัดจากองุ่น ก็ช่วยให้การแก้ปัญหาหน้าแก่กว่าวัยได้ เป็นตัวช่วยที่เสริมวิตามินที่เราขาดหายไปแต่ทั้งนี้ก็ควรศึกษา และดวิตามินที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรอง น่าเชื่อถือ และศึกษาวิธีการกินนอย่างละเอียด และวิตามินเป็นแค่ตัวช่วยเสริมเท่านั้น ยังไม่ควรละเลยต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าแก่กว่าวัย

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • คุกกี้ที่จำเป็น
      เปิดใช้งานตลอด

      ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

    • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

      คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

    • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

      คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

    บันทึกการตั้งค่า